482 Views |
Wang Chuanfu ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง BYD เกิดที่เมืองวูเว่ย มณฑลอันฮุย ในครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่ยากจน เขาต้องถูกพี่น้องเลี้ยงดูหลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตไป ต่อมาเขาได้ศึกษาเคมีที่ Central South University และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจาก Beijing Non-Ferrous Research Institute ซึ่งนำไปสู่การทำงานเป็นนักวิจัยของรัฐบาล
.
ในปี 1995 ช่วงที่รัฐบาลจีนกำลังเปิดประตูสู่โลกภายนอก Wang Chuanfu เริ่มเบื่อหน่ายกับเงินทุนที่จำกัดของนักวิจัยรัฐบาล และด้วยความหลงไหลในเทคโนโลยีแบตเตอรี่มาตั้งแต่ตอนเรียน จึงตัดสินใจยืมเงินจากญาติราว 2.5 ล้านหยวน และก่อตั้งบริษัทของตัวเองในชื่อ BYD ที่เมืองเซิ่นเจิ้น เพื่อผลิตแบตเตอรี่นิกเกิลสำหรับมือถือ
.
ในช่วงเวลานั้น ญี่ปุ่นครองตลาดแบตเตอรี่นิกเกิล-แคดเมียม (NiCd) อย่างเบ็ดเสร็จ แทนที่จะแข่งขันโดยตรง BYD หันมาเน้นที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Wang Chuanfu ใช้เวลาเพียง 2 ปี พัฒนาธุรกิจจากโรงงานเล็ก ๆ กลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่มือถือที่มีรายได้ประจำปีเกิน 100 ล้านหยวน ก่อนที่จะกลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกในเวลาต่อมา
.
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนดึงดูดความสนใจของ Wang Chuanfu เนื่องจากการวิจัยของเขาระบุว่า แบตเตอรี่ชนิดนี้สามารถนำไปพัฒนาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ ด้วยเหตุนี้ BYD จึงซื้อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ล้มละลายจากรัฐบาลจีน และเริ่มเส้นทางการผลิตรถยนต์ ซึ่งใช้เวลาไม่นานรถรุ่น BYD F3 ก็กลายเป็นรถเก๋งขายดีที่สุดในจีน แซงหน้ารุ่นเด่นแบรนด์ดังอย่าง Volkswagen Jetta และ Toyota Corolla
.
แต่เป้าหมายที่แท้จริงของ Wang Chunfu คือ การทำให้ BYD กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2025 สิ่งนี้เขาเคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2008 ในช่วงเวลานั้น BYD เพิ่งจะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก BYD E6 เวอร์ชันต้นแบบสำเร็จ และเพิ่งจะเริ่มปล่อยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรก BYD F3DM เข้าแข่งขันบนท้องตลาด
.
อ่านต่อได้ที่: https://techsauce.co/.../the-story-of-byd-why-they-are...